เชลซี ที่เพิ่งสะดุดเจ๊า เชฟฟิลด์ ทีมบ๊วยประจำรายการ นัดนี้พวกเขาจำเป็นต้องกู้ศรัทธากลับมาให้แฟนบอลกันถึงถิ่น แต่ดูเหมือนจะไม่ง่ายเมื่อต้องมาเจอกับ เอฟเวอร์ตัน ที่ผีเข้าผีออกพอกันและพร้อมที่จะกระชากแต้มกลับออกไปในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันจันทร์ที่ 15 เมษายนนี้ เวลา 02.00 น. ณ สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์
“สิงโตน้ำเงินคราม” ภายใต้การกุมบังเหียนของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ทำผลงาน ชนะ 2 เสมอ 3 จาก 5 นัดหลังในลีก โดยเกมนัดล่าสุด คือการบุกไปถูก เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ตามเจ๊า 2-2 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว ทำให้มี 44 แต้ม จาก 30 นัด รั้งอันดับ 9 ของตาราง
ความพร้อมในเกมนี้ ยังคงมีปัญหาอย่างหนักในการจัดทัพ เมื่อมีแข้งที่บาดเจ็บอยู่เพียบ ไม่ว่าจะเป็น เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, โรเมโอ ลาเวีย, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, รีซ เจมส์, เลสลี่ย์ อูโกชุควู, ลีวาย โคลวิลล์ และ เบน ชิลเวลล์ รวมทั้งยังต้องรอเช็กสภาพของ โรเบิร์ต ซานเชซ
ในระบบ 4-2-3-1 แผงแบ็กโฟร์ประกอบด้วย มาโล กุสโต้, อักเซล ดิซาซี่, เทรโวห์ ชาโลบาห์ และ มาร์ก กูกูเรย่า ส่วนมิดฟิลด์คู่กลางส่ง มอยเซส ไกเซโด้ กับ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ลงคุมจังหวะเกม ขณะที่เกมรุกใช้ โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์ และ มิไคโล มูดริค คอยสร้างสรรค์โอกาสให้ นิโคลัส แจ็คสัน ไล่ล่าตาข่าย
ทางฝั่ง “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ของ ฌอน ไดช์ หลังจากที่ปราชัย 3 นัดติดต่อกัน พวกเขาก็กลับมาเก็บผลเสมอ ก่อนที่เกมนัดล่าสุด จะเปิดบ้านเฉือนชนะ เบิร์นลี่ย์ 1-0 เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ทำให้มี 27 แต้ม จาก 31 นัด รั้งอันดับ 16 ของตาราง โดยอยู่เหนือโซนแดง 2 แต้ม
อย่างไรก็ตามเกมนี้จะไม่สามารถใช้งาน เดเล่ อัลลี่ กับ ลูอิส ด็อบบิน ที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วนในรายของ เจมส์ การ์เนอร์, โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน และ อาร์เนาต์ ดานจูม่า ยังต้องรอทดสอบความฟิต ขณะที่แข้งรายอื่นๆ ยังคงฟิตสมบูรณ์
ในระบบ 4-4-1-1 แนวรับใช้ เบน ก็อดฟรีย์, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, จาร์ราด แบรนธ์เวต และ วิตาลี่ มิโคเลนโก้ แผงมิดฟิลด์ใช้ แอชลี่ย์ ยัง, เจมส์ การ์เนอร์, อังเดร โกเมส และ ดไวท์ แมคนีล คุมแดนกลาง ส่วนแนวรุกส่ง อับดุลลาย ดูกูเร่ คอยปั้นเกมให้ โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน เป็นตัวจบสกอร์