ลิเวอร์พูล แม้จะต้องมาเจอกับที่ทีมห่างชั้นกันอย่างมาก แต่หากยังอยู่บนเส้นทางแชมป์ลีกเกมนี้มีแต่ต้องเฮเท่านั้นเพื่อลากตำแหน่งจ่าฝูงออกไปให้ไกลจากอันดับ 2 และ 3 ให้มากกว่าเดิม ขณะที่ เชฟฟิลด์ ทีมบ๊วยประจำซีซั่นก็มีแต่ต้องหาแต้มติดมือให้ได้เพื่อสลัดบ๊วยให้หลุด ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายนนี้ เวเลา 01.30 น. ณ สนาม แอนฟิลด์
“หงส์แดง” ภายใต้การทำทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ถือว่าฟอร์มกำลังกลับเข้าฝักอีกครั้งหลังเอาชนะ ไบรท์ตัน มาในนัดล่าสุด 2-1 ทำให้ทีมขึ้นครองจ่าฝูงอีกครั้ง โดยสถิติ 5 นัดหลัว
ถึงอย่างนั้นเกมนี้ยังมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น อลีสซง เบ็คเกอร์, โฌแอล มาติป, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, สเตฟาน บายเซติช, ติอาโก้ อัลคันตาร่า, ดิโอโก้ โชต้า และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ส่วนแข้งที่ติดโทษแบนนั้นไม่มีเพิ่มมาแต่อย่างใด
เป็นไปได้ว่าการจัดทัพจะใช้ คอเนอร์ แบรดลีย์, จาเรลล์ ควอนซาห์, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค และ โจ โกเมซ เป็นแผงแบ็กโฟร์ ส่วนแดนกลางประกอบด้วย โดมินิค โซบอสซ์ไล, วาตารุ เอ็นโด, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ พร้อมด้วย 3 ประสานแดนหน้า หลุยส์ ดิอาส, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ดาร์วิน นูนเญซ
ทางฝั่ง “ดาบคู่” ของ คริส ไวลเดอร์ ฟอร์มยังไม่ดีขึ้นเลย แม้ล่าสุดจะเสมอกับ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม ไปแบบได้ใจแฟนบอล 3-3 แต่จากสถิติ 5 นัดหลังสุดที่ผ่านมาทีมทำได้ เสมอ 2 แพ้ 3 ยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็นเลยมา 5 นัดติด ทำให้ทีมยังจมบ๊วยของตารางอยู่ในเวลานี้
สำหรับความพร้อมในเกมนี้ก็ไม่มี แม็กซ์ โลว์, รีส นอร์ริงตัน-เดวี่ส์, คริส บาแชม, จอห์น อีแกน, ริอาน บรูว์สเตอร์, คาเมรอน อาร์เชอร์, อานิส เบน สลิมาน ที่ต่างยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนมาช่วยทีม
นั่นอาจทำให้ เมสัน โฮลเกต, อเนล อาเหม็ดฮอดซิช, แจ็ค โรบินสัน และ เจย์เดน โบเกิล ต้องลงมายืนเป็นตัวหลักในเกมรับ ส่วนกองกลางใช้ นิซิอุส ซูซ่า, โอลิเวอร์ อาร์บลาสเตอร์, กุสตาโว่ ฮาเมอร์ และ เบน ออสบอร์น ช่วยกันสร้างสรรค์เกมแดนกลาง โดยกองหน้าใช้ เบน เบรเรตัน และ โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ ลงมาพังตาข่ายคู่แข่ง