ถึงอันดับจะติดกันแต่ผลงานเหมือนหนังคนละม้วน เกมนี้เจ้าบ้าน บอร์นมัธ ต้องจัดทีมที่ดีที่สุดเพื่องัดกับ คริสตัล พาเลซ ที่เก็บได้แค่ 5 แต้มจาก 4 นัด เกมนี้ใครจะคว้าชัยไปก่อน ติดตามได้ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอังคารที่ 2 เมษายนนี้ เวลา 01.45 น. ณ สนาม ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม
“เดอะ เชอร์รี่ส์” ของ อันโดนี่ อิราโอล่า กำลังทำผลงานในลีกได้อย่างน่าประทับใจ หลังคว้าชัยได้ถึง 3 จาก 4 นัดหลัง โดยเป็นการชนะมา 2 นัดรวด โดยเกมนัดล่าสุด คือการเปิดบ้านเฉือน “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้มี 38 แต้ม จาก 29 นัด รั้งอันดับ 13 ของตาราง
สำหรับความพร้อมของทีมในเกมนี้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ไรอัน เฟรเดอริคส์, หลุยส์ ซินิสเตร์ร่า, ไรอัน คริสตี้ และ มาร์กอส เซเนซี่ ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่
คาดว่าการจัดทัพน่าจะมาในระบบ 4-2-3-1 ที่วาง อดัม สมิธ, อิลลิยา ซาบาร์นยี่, คริส เมแฟม และ ลอยด์ เคลลี่ ไว้ที่แนวรับ ส่วนแดนกลางมี ไทเลอร์ อดัมส์ กับ ลูอิส คุก คอยคุมจังหวะเกม ขณะที่แนวรุกส่ง อองตวน เซเมนโย่, อเล็กซ์ สก็อตต์ และ ดังโก้ อูอัตตาร่า ลงสร้างสรรค์โอกาสให้ โดมินิค โซลันกี้ เป็นตัวจบสกอร์
ทางฝั่ง โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ นายใหญ่ “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ ทำผลงานชนะ 1 เสมอ 3 แพ้ 1 จาก 5 นัดหลังในลีก โดยเกมนัดล่าสุด คือการบุกเจ๊า “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้มี 30 แต้ม จาก 29 นัด รั้งอันดับ 14 ของตาราง
สภาพทีมในเกมนี้ต้องชวดใช้ ชีค ดูกูเร่, ร็อบ โฮลดิ้ง, ไมเคิ่ล โอลิเซ่, มาร์ค เกอฮี, เจซูรัน รัค-ซัคยี่, มาเตอุส ฟรังก้า และ แซม จอห์นสโตน ที่มีอาการบาดเจ็บทั้งหมด
ในระบบ 3-4-2-1 แนวรับใช้ โจเอล วอร์ด, โจอาคิม แอนเดอร์เซ่น และ คริส ริชาร์ดส์ โดยมี ดาเนียล มูนญอซ กับ ไทริค มิตเชลล์ เป็นวิงแบ็ก 2 ฝั่ง มิดฟิลด์คู่กลางใช้ อดัม วาร์ตัน กับ เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา คอยเชื่อมเกม ส่วนแนวรุกส่ง เอเบเรชี่ เอเซ่ กับ จอร์แดน อายิว ลงปั้นเกมให้ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ไล่ล่าตาข่าย