ถึงชื่อชั้นจะอยู่คนละลีก แต่เกรดบอลแทบจะไม่ต่างกัน ถึงอย่างนั้นด้วยศักดิ์ศรีของเจ้าบ้านอย่าง บอร์นมัธ ก็น่าจะเล่นชุดใหญ่ใส่เต็มร้อยเพื่อหวังสอย เลสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังฟอร์มตกแถมยังพะวงกับแชมป์ เดอะ แชมเปี้ยนชิป จนอาจต้องโรเตชั่นเพื่อหวังกู้ศรัทธาให้แฟนบอล ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ คืนวันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 02.30 น. ณ สนาม ไวตาลิตี้ สเตเดี้ยม
“เดอะ เชอร์รี่ส์” ทีมอันดับ 14 จากเวทีพรีเมียร์ลีก ผ่านเข้ามาเล่นในรอบนี้ด้วยการถล่ม สวอนซี 5-0 ในรอบสี่ ส่วนฟอร์มการเล่นของทีมในช่วงที่ผ่านมา ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ลงเตะ 5 เกมหลังสุด เสมอ 3 แพ้ 2 ไม่ชนะใครเลย ล่าสุด พ่ายคาบ้านตัวเองให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ความพร้อมของทีมในเกมนี้ อันโดนี่ อิราโอล่า ยังคงชวดใช้ ไทเลอร์ อดัมส์, ไรอัน เฟรเดอริคส์, เจมส์ ฮิล รวมทั้ง แม็กซ์ อารอนส์ ที่ยังโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานทั้งหมด แต่ก็มีข่าวดีเมื่อ ฟิลลิป บิลลิ่ง พ้นโทษแบนกลับมาลงสนามช่วยทีมได้แล้ว
ในระบบ 4-2-3-1 คาดว่าน่าจะส่ง โดมินิค โซลันกี้ เป็นกองหน้าตัวเป้า ส่วนตัวรุก และแดนกลางจะมี ฟิลลิป บิลลิ่ง, อองตวน เซเมนโย่, หลุยส์ ซินิสเตร์ร่า รวมทั้ง ไรอัน คริสตี้ ขณะที่แนวรับ มาร์กอส เซเนซี่ กับ อิลลิยา ซาบาร์นยี่ ยังเป็นกำลังหลัก
เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือ “จิ้งจอก” ทีมจ่าฝูงของศึกแชมเปี้ยนชิพ ในรอบที่แล้ว ทุบชนะ เบอร์มิงแฮม 3-0 ผ่านเข้ามาในรอบนี้สำเร็จ ทว่าฟอร์มการเล่นของทีมในช่วงหลังๆ เริ่มแผ่วลงแล้ว ลงเตะ 5 นัดหลังสุด ชนะ 3 แพ้ 2 และเป็นการแพ้สองนัดติดแล้ว ล่าสุด บุกไปพ่าย “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-3 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับขุมกำลังจะขาด วิลเฟรด เอ็นดิดี้ กองกลางคนสำคัญ ที่ยังมีอาการบาดเจ็บ ส่วน เจมี่ วาร์ดี้ หัวหอกตัวเก๋ายังต้องดูสภาพความฟิตว่าจะลงช่วยทีมได้หรือไม่ ส่วนบรรดาแกนหลักคนอื่นๆ ไม่มีปัญหาอะไรเพิ่มเติม
คาดว่าเกมนี้น่าจะมีการปรับทัพมาใช้ระบบ 4-3-3 ที่มี แพทสัน ดาก้า, อับดุล ฟาตาวู และ มาร์ค อัลไบรท์ตัน คอยทำสามประสานแนวรุก ส่วนแดนกลางจะมี ยูนุส อัคกุน และ เดนนิส ปราท เป็นห้องเครื่อง ขณะที่แผงหลัง จะใช้งาน คอเนอร์ โคอาดี้ และ คัลลั่ม ดอยล์