ถึงจะยับกันทั้งคู่แต่ดูทรงเจ้าบ้าน เชลซี จำเป็นต้องรีดฟอร์มเก่งออกมาให้ได้หลังจากตลอดทั้งเทอมเก่งในบ้านกับแค่ ลูตัน ทาวน์ เท่านั้น ขณะที่ ไบรท์ตัน เองกลับทำผลงานได้ดีเวลาอยู่นอกถิ่น ต้องลุ้นกันว่าเกมนี้สามแต้มจะไปอยู่ที่ใคร ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคมนี้ เวลา 21.00 น. ณ สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์
เมาริซิโอ โปเชตติโน่ หลังจากหวนคืนเก้าอี้กุนซือบนเวทีพรีเมียร์ลีกด้วยการกุมบังเหียน “สิงห์บูลส์” จนถึงตอนนี้ก็ยังชนะเพียงนัดเดียวเท่านั้นจากเกมลีก 5 นัดหลังสุด โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วออกไปให้ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ถล่ม 4-1 ทำให้รั้งอันดับ 10 ของตาราง มีอยู่ 16 แต้มจากการลงสนาม 13 นัด
ความพร้อมเกมนี้ยังคงไร้เงาของบรรดาขาเดี้ยงไม่ว่าจะเป็น เวสลีย์ โฟฟาน่า, เบน ชิลเวลล์, คาร์นีย์ ชุควูเมกา, เทรโวห์ ชาโลบาห์, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู และโรเมโอ ลาเวีย นอกจากนี้ รีซ เจมส์ กับ มาร์ค กูกูเรย่า ก็พากันติดแบน ทำได้แค่นั่งมองเพื่อนเล่นเท่านั้น
ในระบบ 4-2-3-1 แนวรับใช้ อักเซล ดิซาซี่, ติอาโก้ ซิลวา, เบอนัวต์ บาเดียชิล และ ลีวาย โคลวิลล์ โดยมี มอยเซส ไกเซโด้ กับ เอ็นโซ เฟอร์นานเดซ คุมแดนกลาง ส่วนแนวรุกวางใจ ราฮีม สเตอร์ลิง, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, โคล พาลเมอร์ และ นิโคลัส แจ็คสัน ช่วยกันขุดสกอร์
ทางฝั่ง “นกนางนวล” ของเทรนเนอร์ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ถือว่าฟอร์มเหนียวแน่นใช้ได้ หลังจากพ่ายแค่นัดเดียวจาก 10 นัดหลังสุดในทุกรายการ โดยฟอร์มสัปดาห์ที่แล้ว บุกเฉือน “เจ้าป่า” ฟอเรสต์ 3-2 เก็บเพิ่มเป็น 22 แต้ม รั้งอันดับ 8 ของตาราง นอกจากนี้ ยังบุกไปชนะ เออีเค เอเธนส์ 1-0 เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา การันตีเข้ารอบน็อกเอาต์ศึกยูโรป้าลีกแล้วด้วย
อย่างไรก็ตามขุมกำลังยังคงมีปัญหาเรื่องผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย ไม่ว่าจะเป็น อดัม เว็บสเตอร์, ทาริค แลมพ์ตีย์, เปร์วิส เอสตูปิญาน, ซอลลี่ มาร์ช, ฮูลิโอ เอ็นซิโอ, อันซู ฟาติ และแดนนี่ เวลเบ็ค ขณะที่ มาห์มูด ดาฮูด กับ ลูอิส ดังค์ ติดโทษแบน
นั่นทำให้นายใหญ่ต้องฝากความหวังไว้กับขุมกำลังที่เหลือ ในระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน โดยแผงแบ็กโฟร์คาดว่าจะใช้ โจเอล เฟลต์มัน, แยน พอล ฟาน เฮค, อิกอร์ ฮูลิโอ, ปาสกาล กรอส ส่วนคู่มิดฟิลด์เป็น คาร์ลอส บาเลบา กับ บิลลี่ กิลมอร์ ขณะที่เกมรุกใช้ ไซมอน อดินกรา, ชูเอา เปโดร และ คาโอรุ มิโตมะ ช่วยกันปั้นเกมหนุนกองหน้าตัวเป้า อีแวน เฟอร์กูสัน