ดูทรงไม่มีใครยอมใคร โดยเฉพาะเจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล ที่กำลังคึกจากการไล่ถล่ม เวสต์แฮม ไปหมาด ๆ คาดว่าเกมนี้พร้อมเล่นใหญ่จัดเต็มเพื่อกลับไปสัมผัสหัวตารางอีกครั้ง ขณะที่ทีมเยือนอย่าง อาร์เซน่อล ก็ไม่น้อยหน้าเริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทางอีกครั้ง หวังเก็บสามแต้มสำคัญเพื่อยืดตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 23 ธันวาคมนี้ เวลา 00.30 น. ณ สนาม แอนฟิลด์
“หงส์แดง” ของเทรนเนอร์ เจอร์เก้น คล็อปป์ กำลังคึกคักสุด ๆ หลังเก็บชัยชนะถล่ม “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ดไป 5-1 ในศึกคาราบาว คัพ นัดล่าสุดที่ผ่านมา ทำให้ทีมทำสถิติ 5 นัดหลังสุด ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 ถือว่าทีมน่าจะเข้าหลักเข้าฟอร์มกันได้บ้างแล้ว หลังมีหลุดฟอร์ม ไม่ชนะ คู่แข่งมา 2 นัดติดก่อนหน้านี้
ส่วนขุมกำลังยังคงงดใช้งาน โฌแอล มาติป, ติอาโก้ อัลคันตาร่า, สเตฟาน บายเซติช, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ ดิโอโก้ โชต้า ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ ส่วนผู้เล่นที่เหลือพร้อมลงสนามทุกคน
คาดว่าเกมนี้นายใหญ่เจ้าถิ่นจะจัดแนวรับเป็น เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, อิบราฮิมา โกนาเต้ และ คอสตาส ซิมิคาส ส่วนแผงกองกลางจะใช้ โดมินิค โซบอสไล, วาตารุ เอ็นโด และ ไรอัน กราเฟนแบร์ค ลงมาสร้างโกาสในเกมบุกให้ทีม ส่วนสามประสานแดนหน้าเป็น หลุยส์ ดิอาซ, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ดาร์วิน นูนเญซ ลงมาล่าตาข่ายเช่นเคย
ทางด้าน “ปืนใหญ่” ของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า ก็ฟอร์มเริ่มดีขึ้นอีกครั้งหลังหักปีก “นกนางนวล” ไบรท์ตัน ในนัดล่าสุดได้ 2-0 ทำให้ทีมผงาดขึ้นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกในเวลานี้ และสถิติ 5 นัดหลังสุด ทีมทำได้ ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 ถือว่างานนี้ทีมน่าจะพร้อมที่จะสู้กับคู่แข่งแบบจัดเต็มเพื่อจะครองจ่าฝูงต่อไปให้ได้
สำหรับสภาพทีมเกมนี้ยังไม่มีชื่อของ จอร์จินโญ่, เยอร์เรียน ทิมเบอร์, ฟาบิโอ วิเอร่า, โธมัส ปาร์เตย์, โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ และ ทาเคฮิโร โทมิยาสุ ที่ยังไม่หายเดี้ยงและหมดสิทธิลงช่วยทีมต่อไป ยังดีที่ไม่มีใครติดโทษแบนเพิ่มเติม ตัวหลักหน้าเดิมสามารถลงสนามได้ตามปกติ
ส่วนการจัดทัพน่าจะยึดขุมกำลังชุดเดิมเป็นหลัก โดยแผงแนวรับใช้ เบน ไวท์, วิลเลียม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลเญส และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ เป็นแกนหลักตามเดิม ส่วนกองกลางจะใช้ มาร์ติน โอเดการ์ด, เดแคลน ไรซ์ และ ไค ฮาแวร์ตซ์ เป็นคนสร้างสรรค์เกมแดนกลาง ส่วน 3 ประสานแนวรุกยังคงเป็น กาเบรียล เชซุส, บูกาโย ซาก้า และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ คอยหาจังหวะปิดสกอร์