โคเปนเฮเก้น แม้ว่าชื่อชั้นและศักยภาพจะดูห่างชั้นจากคู่แข่ง ทว่าเกมนี้ก็พร้อมบู๊กันเต็มที่เพื่อเอาใจแฟนบอลหลังจากไม่ได้เข้ารอบน็อกเอาต์มาตั้งแต่ปี 2011 ขณะที่ทีมเยือนอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็พร้อมที่จะเล่นใหญ่ให้ตั้งแต่แรกพบด้วยเช่นกัน ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก คืนวันอังคารที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 03.00 น. ณ สนาม พาร์เคน สเตเดี้ยม
เอฟซี โคเปนเฮเก้น ทีมแชมป์ลีกเดนมาร์ก เข้ารอบน็อกเอาต์ได้แบบหักปากกาเซียน หลังจากเข้ารอบมาในฐานะทีมอันดับ 2 กลุ่มเอ พร้อมกับแชมป์กลุ่มอย่าง “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ปาดหน้าทีมดังอย่าง กาลาตาซาราย และ แมนยูไนเต็ด ที่จบเป็นอันดับ 3 และ 4 ของกลุ่มตามลำดับ
ส่วนความพร้อมในเกมนี้ ดาวิต โคโชลาวา, ธีโอ ซานเดอร์ และ บีร์เกอร์ เมลิง ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ต้องดูเพื่อนเล่นไปก่อน รวมถึง ลูคัส เลราเกอร์ มิดฟิลด์คนสำคัญ ซึ่งติดโทษแบนหลังจากโดนไล่ออกในเกมนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มที่เฉือนชนะ กาลาตาซาราย 1-0
นั่นอาจทำให้นายใหญ่อย่าง จาค็อบ นีสตรูป ต้องยึดแกนหลักชุดเดิมจากรอบแบ่งกลุ่ม แนวรับนำโดยคู่เซนเตอร์ เควิน ดิคส์ กับ เดนิส วาฟโร ส่วนแดนกลางใช้ ดิโอโก้ กอนคาลเวส, ราสมุส ฟอล์ค, รูนี่ บาร์ดจี ช่วยกันปั้นเกมหนุนแนวรุกที่ประกอบด้วย วิคเตอร์ แคลสสัน, โมฮาเหม็ด เอลยูนูสซี่ และ เอเลียส อาชูรี่
ทางฝั่ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ “เรือใบสีฟ้า” ก็พาทีมลอยลำเข้ารอบน็อกเอาต์มาด้วยผลงานสุดยอด ชนะรวด 6 นัดเก็บ 18 คะแนนเต็ม คว้าแชมป์กลุ่มจี นอกจากนี้ ทีมเรือใบสีฟ้ายังอยู่ในช่วงฟอร์มร้อนแรงสุดๆ หลังจากเก็บชัยชนะมาถึง 10 นัดติดต่อกันในทุกรายการ
นอกจากนี้ ขุมกำลังก็ถือว่าสมบูรณ์เต็มที่ โดยไม่มีผู้เล่นติดโทษแบน ส่วนผู้เล่นที่บาดเจ็บก็หายกลับมาพร้อมลงสนามได้หมดแล้ว ทำให้กุนซือเลือดกระทิงมีตัวผู้เล่นให้เลือกใช้งานได้แบบสบายใจหายห่วง
อย่างไรก็ตามอาจจะมีการปรับทัพจากเกมลีกนัดล่าสุดที่เปิดบ้านชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยผู้เล่นหลายคนที่ได้พักในเกมดังกล่าวน่าจะได้กลับมาออกสตาร์ทเป็น 11 คนแรก ไม่ว่าจะเป็น แบร์นาโด้ ซิลวา, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, ไคล์ วอล์คเกอร์ และจอมทัพ เควิน เดอ บรอยน์