“ห้างขายยา” จัดยาแรงสามเม็ดเผด็จศึก ซาร์บรุ๊คเค่น 3-0 ตีตั๋วชิงดำเป็นสมัยที่ 2 ในศึกฟุตบอล เดเอฟเบ โพคาล รอบรองชนะเลิศ เมื่อคืนวันอังคารที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา
เปิดเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 6 นาที เลเวอร์ คูเซ่น ที่ครองเกมเหนือกว่าก็ได้โอกาสซัดนอกกรอบด้วยฝีเท้าของ เคเร็ม เดมีร์บาย ทว่าบอลไปแฉลบใส่ สตีเว่น เซลเนอร์ ออกหลัง
5 นาทีต่อมา เจ้าบ้านก็ถูกพังประตูไปก่อนจากจังหวะที่ เคเร็ม เดมีร์บาย ครอสบอลให้ มุสซ่า ดิยาบี้ ที่หลุดกับดักล้ำหน้าขึ้นไปวอลเลย์จังหวะเดียว ส่งลูกลอดขานายด่านเจ้าบ้าน ออกนำไปก่อน 1-0
หลังจากทำประตูแรกไปแล้ว “ห้างขายยา” ยังคงกดดันเจ้าถิ่นอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งนาที 17 เปาลินโญ่ จ่ายให้ ชาร์ลซ์ อารานกีซ ก่อนจะหลบแผงหลังเข้าไปซัดซ้ายติดเซฟอย่างน่าเสียดาย
แต่ว่าผ่านไปแค่ 2 นาที นายด่านซาร์บรุ๊คเค่นต้องมาการ์ดรั่วอีกครั้ง เมื่อ เคเร็ม เดมีร์บาย เจ้าเก่าตักบอลเข้าระยะ 6 หลา แต่ ดาเนียล บาท์ซ ชกไปเข้าทาง ลูคัส อลารีโอ ซัดซ้ายเสียบเสาแรกเข้าไป “ห้างขายยา” ขยับหนี 2-0
นาที 21 เจ้าถิ่นก็ได้โอกาสซัดเข้ากรอบหนแรกในจังหวะที่ ทิม กอลลี่ย์ ไหลให้ สตีเว่น เซลเนอร์ ส่องนอกกรอบแต่ก็ไม่พ้นเซฟ ลูคัส ราเดชกี้
นาที 36 มุสซ่า ดิยาบี้ เร่งสปีดเก็บบอลส่งเข้ากลางให้ เปาลินโญ่ ซัดไกล 25 หลา เข้าซองนายทวาร ซาร์บรุ๊คเค่น
นาทีต่อมา มุสซา ดิยาบี้ ได้ทีตักลูกเข้าเสาสองให้ เคเร็ม เดมีร์บาย ขึ้นเต็มเหน่งแต่ก็ยังติดเซฟอยู่ดี
จบครึ่งแรก เลเวอร์ คูเซ่น นำ ซาร์บรุ๊คเค่น 2-0
สลับฝั่งครึ่งหลังเป็นฝั่ง “ห้างขายยา” ที่ตัดสินใจเปลี่ยนตัวพร้อมกันสองคน โดยให้ คาริม เบลลาราบี้ กับ โจนาธาน ทาห์ ลงไปแทน ฟลอเรียน เวิร์ทซ และ เอ็ดมอนด์ แทปโซบา
นาที 47 เจ้าถิ่นหวิดได้ประตูแรก จากจังหวะที่ ฟาโนล เพอร์เดดาจ์ ครอสไปโดน เซบาสเตียน ยาค็อบ ทำบอลเปลี่ยนทางเกือบเสียบเข้าประตู แต่ ลูคัส ราเดชกี้ พุ่งไปรับไว้ได้ทัน
นาที 58 ซาร์บรุ๊คเค่น ต้องมาเสียประตูที่สามจนได้เมื่อ มุสซา ดิยาบี้ ลุยเดี่ยวชนปราการหลัง ก่อนบอลออกไปทาง คาเร็ม เดมีร์บาย เล่นยกหลบตบเข้ากลางให้ คาริม เบลลาราบี้ แปขวาเข้าไปเนียน ๆ
นาที 67 เจ้าบ้านได้โอกาสตีโต้อีกหนด้วยการครอสเข้ากรอบ 10 ของ ฟาโนล เพอร์เดดาจ์ เปิดทางให้ ทิม กอลลี่ย์ เข้ามาซัดติดตัวนายด่าน “ห้างขายยา”
นาที 76 เควิน โฟลันด์ ไหลเข้ากรอบแต่ เปาลินโญ่ ยิงพลาดโดน ดาเนียล บาท์ซ สะกิดออกหลังไป
นาที 79 นายด่านเจ้าบ้านหวิดกันไม่อยู่อีกหนเมื่อ เปาลินโญ่ เล่นแทงเร็วให้ คาริม เบลลาราบี้ ดึงหลบไปซัดใส่เสาแรก แต่ ดาเนียล บาท์ซ ใช้กำปั้นกระแทกออกไปได้
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมไหนสามารถทำประตูเพิ่มขึ้นมาได้ ต้องจบเกมกันไปด้วยชัยชนะของ เลเวอร์ คูเซ่น 3-0 เข้าไปรอในรอบชิงชนะเลิศก่อนเป็นหนแรกในรอบ 11 ปี และต้องลุ้นว่าวันที่ 4 กรกฎาคมนี้จะได้ฟาดแข้งกับใครระหว่าง “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค หรือ “อินทรีแดง-ดำ” แฟร้งค์เฟิร์ต