แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบมีแบ่งแต้มท้ายเกม หลังเฉือนชัย บอร์นมัธ 2-1 เก็บไปอีก 3 แต้ม ปล่อยทีมเยือนแช่อันดับ 18 เหลือโอกาสหนีตายอีกแค่ 2 เกมในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันพุธที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา
แน่นอนแล้วว่าผลงานของ “เรือใบสีฟ้า” ในฤดูกาลนี้มีดีพอที่จะให้คว้าตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า พร้อมกับตำแหน่งรองแชมป์ลีกของซีซั่นนี้ อีกทั้งพ้นโทษแบนของ ยูฟ่า เรียกได้ว่าขวัญมาเต็ม
เกมนี้แม้จะต้องเจอกับทีมหนีตายอย่าง บอร์นมัธ แต่ เป๊ป กวาร์ดดิโอล่า ก็ไม่มีทีท่าว่าจะออมมือ มีการโรเตชั่นบางจุดส่วน ดาบิด ซิลบา ห้องเครื่องกัปตันทีมวัย 34 ขอทิ้งทวนอย่างต่อเนื่องให้กับฤดูกาลสุดท้ายใน เอติฮัด สเตเดี้ยม คอยปั้นเกมอยู่หลัง แบร์นาร์โด้ ซิลวา, กาเบรียล เชซุส และฟิล โฟเด้น
ทางด้าน เอ็ดดี้ ฮาว นายใหญ่ บอร์นมัธ ที่กดดันสุด ๆ กับโอกาสรอดที่เหลือน้อยเต็มทีหลังจากที่ นอริช ซิตี้ ตกชั้นเป็นรุ่นพี่ในฤดูกาลนี้เรียบร้อย ก็ได้แต่ฝากความหวังไว้ที่ โจชัว คิง, จูเนียร์ สตานิสลาฟ และ โดมินิก โซลันกี้
ลงสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ได้ไม่ถึง 3 นาที ทีมเยือนก็เร่งเครื่องเข้าใส่แบบไม่รอจากจังหวะขึ้นโขกของ แดน กอสลิ่ง ที่พุ่งดิ่งใส่มือ เอแดร์ซอน ก่อนที่ผู้รักษาประตูเลือดแซมบ้าจะเปิดยาวให้ กาเบรียล เชซูส หลุดเข้ากรอบ 6 หลา แต่ว่าแนวรับอาคันตุกะก็ไวกว่ารีบเคลียร์บอลก่อนถึง ดาบิด ซิลบา
นาที 6 ดาบิด ซิลบา จัดการเรียกฟรีคิก 20 หลาที่หน้ากรอบปั่นข้ามกำแพงเช็ดใต้คานผ่านเซฟเข้าไปแบบสุดสวย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เฮก่อน 1-0
นาที 22 แดน กอสลิ่ง โหม่งเข้ากรอบให้ โจชัว คิง ตวัดขวาหลุดกรอบไปไม่ต้องลุ้น
นาที 34 บอร์นมัธ ยังคงพยายามทำประตูอย่างต่อเนื่องจากจังหวะฟรีคิกของ จูเนียร์ สตานิสลาฟ ที่ปั่นข้ามกำแพงแต่โดนนายด่าน “เรือใบสีฟ้า” เอาปลายมือจิ้มชนเสาแม้จะจับบอลไม่อยู่แต่ก็หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 37 โดมินิก โซลันกี้ มีโอกาสซัดในระยะ 6 หลา แฉลบใส่ โอตาเมนดี้ เหินคานออกไปอีกหน
2 นาทีต่อมากลายเป็นว่า “เรือใบสีฟ้า” ทิ้งห่างไปอีกจากจังหวะสวนเร็วของ ดาบิด ซิลบา ทะลุช่องหา กาเบรียล เชซุส หลุดไปเหนี่ยวติดตาข่าย
จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำ บอร์นมัธ 2-0
สลับฝั่งมาถึงนาที 59 โซลันกี้ ได้ช่องแทงบอลให้ จูเนียร์ สตานิสลาฟ ฝ่าแนวรับเจ้าถิ่นเข้าไปอัดใส่เสาไกล ก่อนที่ โจชัว คิง จะจิ้มเข้าประตู แต่ว่า VAR ฟัน โจชัว คิง ล้ำหน้าก่อน ทำชวดตีไข่แตกอย่างน่าเสียดาย
นาที 73 กัปตัน “เรือใบ” ทะลุช่องให้ กาเบรียล เชซุส หาจังหวะยิง แต่โดน สตีฟคุ๊ก เสียบเข้าหลัง เชิ้ตดำรีบให้จุดโทษ ก่อนจะโดน VAR แย้งว่าแข้งทีมเยือนเข้าถึงบอลก่อนจะโดน กาเบรียล เชซุส เข้าไปเหยียบเท้า กลายเป็นฝั่งเจ้าบ้านที่ทำฟาวล์เสียเอง
นาที 81 บอร์นมัธ หวิดได้เฮเมื่อ ดาวิด บรู๊คส์ จ่ายให้ คัลลั่ม วิลสัน ตะบันขวาในกรอบ ทว่าบอลหลุดกรอบไปอีกหน
นาที 84 แมนฯ ซิตี้ หวิดได้ประตูที่สามจากจังหวะ ฟิล โฟเด้น กดในกรอบ 6 หลาเข้ากลางตัว อารอน แรมส์เดล
นาที 88 บอร์นมัธ ก็ตีไข่แตกสำเร็จจากการที่ คัลลั่ม วิลสัน หลุดเข้าไปปาดให้ เดวิด บรู๊คส์ ลั่นไกในเขตโทษ
จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ บอร์นมัธ 2-1