จบลงไปแล้วสำหรับอีกหนึ่งศึกใหญ่อย่าง ONE FIGHT NIGHT 20 เมื่อวันเสาร์ ที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา โดยคู่ที่น่าสนใจ นั้นเป็นการคว้าชัยชนะของ เพชรจีจ้า ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม เหนือ เจเน็ต ท็อดด์ ทำให้สามารถกระชากเข้มขัดแชมป์ ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต หญิง มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่
โดยประวัติของ เพชรจีจ้า นั้น เริ่มชกมวยมาตั้งแต่อายุเพียงแค่ 6 ปี เท่านั้น พัฒนาตัวเองอย่างก้าวกระโดด จนสร้างชื่อเสียงดังที่สุด คือการเป็นนักมวยหญิงคนแรกของ ONE ที่ไปยัง ONE รายการใหญ่ได้สำเร็จ
ด้านผลงานในระดับสากล เจ้าตัวก็เคยเอาแชมป์โลกเฉพาะกาล จาก อนิสสา เม็กซน มาครองได้สำเร็จ ก่อนที่จะมาปังต่อเนื่องด้วยการล้ม เจเน็ต ในไฟต์ล่าสุดที่ผ่านมา
โดยความสำเร็จของเขา ก็ทำให้ นักมวยหญิงหลายคน มองเป็นไอดอลทันที ซึ่งเจ้าตัวก็แฮปปี้จริงๆ และหวังว่าจะมีส่วนในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักมวยหญิงทุกๆคน
“ส่วนตัวหนูรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ชกกับ เจเน็ต เขาอายุ 38 ปี แล้ว แต่ยังแข็งแรงมาก ๆ ตอนทราบข่าวว่านี้จะเป็นไฟต์สุดท้ายของเขา หนูรู้สึกเสียใจและเสียดายที่ต้องเห็นเขาอำลาวงการไป หนูอยากขอบคุณเขามากที่มาชกกับหนูเป็นการส่งท้าย เขาเองก็คงไม่ลืมว่าชกกับหนู หนูอยากให้เขาสุขภาพร่างกายแข็งแรงอยู่ตลอด ถึงจะไม่ได้เป็นนักมวยแล้ว แต่ก็อยากให้เขาสุขภาพดีต่อไปค่ะ”
ตอนนี้เปรียบเสมือนเข้าสู่ยุคใหม่ของ ‘เพชรจีจ้า’ อย่างเต็มตัว โดยเธออยากรักษาเข็มขัดคิกบ็อกซิ่งเอาไว้ให้นานที่สุด รวมถึงเล็งกลับไปตามล่าบัลลังก์มวยไทยอย่างที่เธอตั้งเป้าไว้ตั้งแต่แรก พร้อมกับหวังให้การต่อสู้ของตนเองเป็นแรงบันดาลใจส่งไปถึงผู้หญิงอีกหลาย ๆ คน ให้กล้าก้าวออกไปทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง
“หนูอยากป้องกันแชมป์คิกบ็อกซิ่งให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้ามีคิวขึ้นรักษาแชมป์ หรือใครอยากชกด้วยหนูก็พร้อมเสมอ หนูอยากแสดงความยินดีไปถึง อัลลิเซีย (เฮลเลน รอดริเกส) ที่ป้องกันแชมป์โลกมวยไทยได้ด้วย หนูคิดว่าอีกไม่นานเราสองคนคงได้มาเจอกันบนเวที ต่างคนต่างแทบไม่มีคู่ชกแล้ว คงหนีกันไม่ได้ค่ะ”
“นอกจากนี้หนูก็อยากจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงทุกคนด้วย หนูคิดว่าผู้หญิงทุกคนสามารถทำตามความฝันได้ ถ้าเรามีความตั้งใจ ความมั่นใจ แล้วก็พัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ ก็จะไปถึงจุดที่เราคาดหวังไว้ได้ หนูขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน เพราะว่าตัวหนูเองกว่าจะมายืนอยู่ในตรงนี้ได้ ก็ต้องผ่านอุปสรรคและความยากลำบากมามากเหมือนกันค่ะ”