จบไปแล้วกับการเตะนัดแรกรอบ 8 ทีมสุดท้ายยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านปะทะ บาร์เซโลน่า ก่อนพ่าย 0-1 จนน้าลูกอมต้องทำงานหนักให้ทีมผ่านด่านให้ได้ในการเยือนนัดสองที่ คัมป์ นู วันอังคารที่ 16 เมษายนที่จะถึงนี้
กลายเป็นงานเข้าในทันทีที่ปีศาจแดงต้องตายคารังหลังจากเปิดบ้านรับนักเตะบาร์ซ่า เพราะในนัดเยือนพวกเขาต้องชนะเท่านั้น ถ้าจบ 90 นาทีที่ 1-0 ก็ต้องต่อเวลาไปอีก แต่ถ้าชนะด้วยผลต่าง 1 ลูกในแบบอื่น เช่น 2-1, 3-2 พวกเขาจะเข้ารอบต่อไปด้วยกฎประตูทีมเยือน แล้วถ้าโชว์ฟอร์มเจ๋งพอที่จะทำ 2 ประตูขึ้นไปก็จะได้เข้ารอบเช่นกัน
แต่การจะตี คัมป์ นู ให้แตกดูจะไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่ใครคิด เมื่อที่แห่งนี้ถูกขนานนามให้เป็นกำแพงเหล็กที่แข็งแกร่งที่สุดในวงการฟุตบอล ชนิดที่ว่าใครต้องไปตีมีร้องกันทุกทีม โดยเฉพาะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะต้องย้อนไปดูกันว่าที่ผ่านมาพวกเขาทำผลงานเป็นอย่างไรในอดีต เพื่อจะใช้วางแผนในนัดหน้า
คัพ วินเนอร์ส คัพ ในฤดูกาล 1983-84 การเตะนัดแรกรอบก่อนรองชนะเลิศ การปะทะกันระหว่าง ปีศาจแดง กับ อาซูลกราน่า ถูกจับตามองมากที่สุด เพราะในนัดแรกแมนฯ ยูฯ ถูกถล่มจนเละ 0-2 ก่อนจะแก้มือในนัดสองด้วยชัยชนะ 3-0 ทะยานเข้ารอบต่อไป ก่อนที่จะโดน ยูเวนตุส ดับฝัน
ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 1994-95 เป็นการเจอกันในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งฝั่งผีแดงในยุค เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เรียกได้ว่าเป็นยุคผลัดเปลี่ยนนักเตะ ที่มีการรวมตัวระหว่างรุ่นเก๋าและเหล่าแข้งรุ่นใหม่ไฟแรง แต่ก็ทลายปราการเหล็กไม่ได้ พ่ายไป 0-4 ม้วนเสื่อกลับบ้านทันที
แต่แล้วในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 1998-99 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้กลับมาโชว์ฟอร์มอีกครั้งด้วยการตีเสมอ 3-3 ทำให้เดินสู่เส้นทาง ทริปเปิ้ลแชมป์ ได้สำเร็จ
ในฤดูกาล 2007-08 ของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ ใคร ๆ ต่างก็คิดว่าพวกเขาต้องแพ้กลับบ้านกันอย่างแน่นอน ต่อให้มี โรนัลโด้, เตเวซ และรูนี่ย์ เป็นสามหัวหอกก็ตาม แต่แล้วในนัดแรกที่ปะทะกันกับ บาร์เซโลน่า ต่างก็กินกันไม่ลง โชคดีที่นัดสองแมนฯ ยูฯ สามารถชนะได้แบบเฉียดฉิว 1-0 ด้วยแข้งของ พอล สโคลส์ และฤดูกาลนี้ทีม เฟอร์กูสัน ก็สามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จ