เชลซี หลังจากปิดเทอมไปด้วยผลงานที่ไม่สู้ดี เปิดเทอมใหม่นี้กลายเป็นว่าต้องเจองานหินตั้งแต่นัดแรก เมื่อต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของแชมป์เก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เพิ่งคว้าแชมป์ คอมมูนิตี้ ชิลด์ อีกด้วย เกมนี้เจ้าบ้านจะมีแต้มติดไม้ติดมือหรือไม่ ต้องลุ้นกันในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคมนี้ เวลา 22.30 น. ณ สนาม สแตมฟอร์ดบริดจ์
เอ็นโซ่ มาเรสก้า นายใหญ่ป้ายแดงของ “สิงบูลส์” ล่าสุดพาทีมเจ๊ากับ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลานไป 1-1 ทำให้ทำสถิติ 5 นัดหลังสุดได้ ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 3 และงานนี้ทีมต้องมาเจอทีมแชมป์เก่า อาจทำให้ต้องเล่นกันแบบระมัดระวังมากขึ้น เพราะตอนนี้ ขุมกำลังของทีมจะไม่สามารถใช้งาน รีส เจมส์ และ ติโน่ อันโจริน ที่ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ ส่วนผู้เล่นรายหลักคนอื่นๆพร้อมลงสนามทั้งหมด
การจัดทัพคาดว่าจะส่งกองหลังอย่าง มาโล กุสโต้, ลีวาย โคลวิลล์, เวสลีย์ โฟฟาน่า และ มาร์ค กูกูเรย่า ลงมาเป็นตัวจริงมาผนึกเกมรับ โดยมีกองกลางอย่าง มอยเซส ไกเซโด, เอ็นโซ่ เฟอร์นานเดซ, โนนี่ มาดูเอเก้ และ โคล พาเมอร์ คอยปั้นเกมแดนกลาง และใช้กองหน้าอย่าง นิโคลัส แจ็คสัน และ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ลงมาพังตาข่ายคู่แข่ง
ทางฝั่ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ “เรือใบสีฟ้า” นอกจากคว้าแชมป์รายการนี้ของฤดูกาลที่แล้วไปได้ ล่าสุดพวกเขายังคว้าแชมป์ คอมมูนิตี้ ชิลด์ ได้ในเกม แมนเชสเตอร์ ดาบี้ โดยเอาชนะอริร่วมเมืองอย่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยชนะจุดโทษ 7-6 หลังเสมอในเกม 1-1 นั่นทำให้สถิติ 5 นัดหลังสุดทีมทำได้ ชนะ 2 แพ้ 3 ถือว่าทีมยังอยู่ในมาตราฐานที่ดี
สำหรับสภาพความพร้อมในเกมนี้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ออสการ์ บ็อบบ์, แจ็ค กรีลิช และ โรดรี้ ที่มีอาการบาดจ็บอยู่ ส่วนผู้เล่นรายอื่นพร้อมลงสนามตามตำแหน่งตัวเอง
นั่นอาจทำให้ผู้จัดการทีมชาวสเปนเลือกใช้ผู้เล่นกองหลังที่มี ไคล์ วอล์คเกอร์, มานูเอล อคานจี, นาธาน อาเก้ และ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ลงมาเป็นปราการหลักในแนวรับ ส่วนกองกลางคาดใช้ มาเตโอ โควาซิช, เควิน เดอ บรอยน์, แบร์นาโด้ ซิลวา และ เฌเรมี่ โดกู ลงมาปั้นเกมแดนกลาง ส่วนกองหน้าคาดใช้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ และ ฟิล โฟเด้น ลงมาระเบิดสกอร์คู่แข่ง