เชลซี กำลังเดินหน้าโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง และมีโอกาสจะขยับแซงหน้า สเปอร์ส ขึ้นไปรั้งอันดับ 5 พร้อมการันตีตั๋วลุยศึก ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ด้วย แต่ต้องเฮรวมถึงแช่งให้อีกทีมพ่ายด้วยเช่นกัน ขณะที่ บอร์นมัธ ก็ยังมีลุ้นจะจบท็อปเทน หาก ไบรท์ตัน โดน แมนฯ ยูไนเต็ด ยัดพ่ายให้ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสุดท้าย คืนวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคมนี้ เวลา 22.00 น. ณ สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์
“สิงโตน้ำเงินคราม” ภายใต้การทำทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กลับมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล หลังเดินหน้าคว้าชัยมา 4 นัดรวด และแพ้เพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น จากเกมลีก 14 นัดหลัง โดยเกมนัดล่าสุด คือการบุกไปเฉือนชนะ “นกนางนวล” ไบรท์ตัน 2-1 ในเกมนัดตกค้าง เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ทำให้มี 60 แต้ม จาก 37 นัด รั้งอันดับ 6 ของตาราง
สภาพทีมในเกมนี้ ยังคงมีปัญหาในการจัดทัพ เมื่อจะขาดแข้งที่บาดเจ็บอยู่หลายราย ไม่ว่าจะเป็น โรเบิร์ต ซานเชซ, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, โรเมโอ ลาเวีย, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, คาร์นี่ย์ ชุควูเอเมก้า และ มิไคโล มูดริค รวมทั้ง รีซ เจมส์ ที่ติดโทษแบน หลังโดนใบแดงในเกมก่อน
ในระบบ 4-2-3-1 แผงหลัง 4 คน ประกอบด้วย มาโล กุสโต้, เทรโวห์ ชาโลบาห์, เบอนัวต์ บาเดียชิล และ มาร์ก กูกูเรย่า ส่วนมิดฟิลด์คู่กลางส่ง มอยเซส ไกเซโด้ กับ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ลงคุมจังหวะเกม ขณะที่เกมรุกใช้ โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์ และ ราฮีม สเตอร์ลิง คอยสร้างสรรค์โอกาสให้ นิโคลัส แจ็คสัน ไล่ล่าตาข่าย
ทางฝั่ง “เดอะ เชอร์รี่ส์” หลังจากคว้าชัยได้ 2 นัดติด พวกเขาก็กลับมาปราชัย 2 นัดรวด ด้วยการบุกไปพ่ายให้กับ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล 0-3 ตามด้วยการเปิดบ้านแพ้ “ผึ้งพิฆาต” เบรนท์ฟอร์ด 1-2 เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ทำให้มี 48 แต้ม จาก 37 นัด รั้งอันดับ 11 ของตาราง
ความพร้อมของทีมในเกมนี้ นายใหญ่อย่าง อันโดนี่ อิราโอล่า จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ไรอัน เฟรเดอริคส์ และ หลุยส์ ซินิสเตร์ร่า ที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วนในรายของ คริส เมแฟม ยังต้องรอทดสอบความฟิต
คาดว่าในระบบ 4-2-3-1 แนวรับ 4 คน ประกอบด้วย อดัม สมิธ, อิลลิยา ซาบาร์นยี่, มาร์กอส เซเนซี่ และ ลอยด์ เคลลี่ ส่วนมิดฟิลด์คู่กลางใช้ ไรอัน คริสตี้ กับ ลูอิส คุก คอยเชื่อมเกม ขณะที่แนวรุกส่ง อองตวน เซเมนโย่, จัสติน ไคลเวิร์ต และ มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ ปั้นเกมให้ โดมินิค โซลันกี้ เป็นตัวจบสกอร์“