พ่ายในศึกชิงตัวกันไป ลิเวอร์พูล ขอใช้โอกาสนี้ล้างตา เชลซี ที่เข้ามาป่วนดีลคว้าทั้ง มอยเซส ไกเซโด้ และ โรมีโอ ลาเวีย ตัดหน้าไปแบบสุดแสบ พร้อมฟาดแข้งในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดเปิดฤดูกาล คืนวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคมนี้ เวลา 22.30 น.
เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่หวนคืนสู่การกุมบังเหียนทีมระดับพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง หลังจากหักเหลี่ยมเฉือนคมกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไปเมื่อนัดชิงดำ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2019
เจอกันคราวนี้นายใหญ่ “สิงห์บูลส์” แม้ว่าจะชิงตัว มอยเซส ไกเซโด้ และ โรมีโอ ลาเวีย ที่เป็นเป้าหมายของ “หงส์แดง” มาเสริมทัพได้สำเร็จ แต่ก็มีปัญหาแข้งเจ็บอยู่ไม่น้อย ทั้ง คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู, เบอนัวต์ บาเดียชิล, เวสเล่ย์ โฟฟาน่า, อาร์มันโด้ โบรย่า และ มาร์คัส เบ็ตติเนลลี่ ในรายของ โนนี่ มาดูเอเก้ ปีกชุด ยู-21 ถึงจะกลับมาซ้อมได้แต่ก็คงให้นั่งสำรองไปก่อน
นั่นทำให้ “พอช” จำต้องใช้ระบบ 4-2-3-1 ที่มี เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ คุมเกมกลางร่วมกับ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ แนวรุกวางใจ นิโกลัส แจ็คสัน หอกป้ายแดงที่ได้มาจาก บียาร์เรอัล ยืนหน้าเป้า แล้วเอา ราฮีม สเตอร์ลิง กับ รีซ เจมส์ วิ่งริมเส้นทั้งสองฝั่ง
ทางด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ “หงส์แดง” เกมนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นศึกล้างตาก็ว่าได้ หลังจากที่ส่งออก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ มิลเนอร์, ฟาบินโญ่, นาบี เกอิต้า และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-เชมเบอร์เลน ก็ได้ตัว อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ โดมินิค โซโบสไล เข้ามาแทนด้วยงบเกือบร้อยล้านปอนด์
ในเรื่องความพร้อมของทีมยังคงไร้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า และ สเตฟาน บายเซติช สองมิดฟิลด์คนสำคัญที่ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวน ส่วนที่เหลือไม่มีปัญหาอะไรเพิ่มเติม
ในระบบ 4-3-3 เปิดซีซั่นด้วยกัปตันทีมคนใหม่อย่าง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่พร้อมบัญชาทัพอยู่ที่แผงหลัง ส่วนสองแข้งใหม่อย่าง “บิ๊กแม็ค” กับ “โซโบ้” น่าจะสตาร์ทแผงกลางเกมรุก หน้าที่บุกฝั่งขวาเป็นของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เจ้าเก่า ส่วนตำแหน่งที่เหลือในแนวรุกต้องให้ ดาร์วิน นูนเญซ, ดีโอโก้ โชต้า, โคดี้ กัคโป้ และ หลุยส์ ดิอาซ ไปขับเคี่ยวกันเอาว่าใครจะได้ลงสองคนแรกก่อน