อาร์เซน่อล แม้ว่าเกมนี้จะไม่เต็มร้อยแต่ก็ได้เปรียบตรงที่เล่นในบ้านตัวเอง ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่อยู่ในสภาพไม่ต่างกัน แต่ก็มีดีที่ตัวเลือกเยอะกว่า แถมฟอร์มทีมก็ไม่ห่างกันมากนัก เกมนี้ใครจะมีชัยเหนือกว่ากันต้องติดตามกันในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคมนี้ เวลา 22.30 น. ณ สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
มิเกล อาร์เตต้า กุนซือทัพ “ปืนใหญ่” เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็งัดฟอร์มดุไล่ถล่ม บอร์นมัธ 4-0 ในเกมลีก ก่อนจะไปสะดุดพ่ายให้กับ ล็องส์ 1-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อคืนกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
การจัดทัพเกมนี้ไม่มีชื่อแข้งเดี้ยงอย่าง เยอร์เรียน ทิมเบอร์ และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ในรายของ บูกาโย่ ซาก้า ก็ต้องรอลุ้นความฟิตกันจนถึงนาทีสุดท้าย หลังจากเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อจากเกมล่าสุด
ก็เป็นไปได้ว่าเกมนี้เจ้าถิ่นจะยังคงเน้นที่แกนหลักชุดเดิมที่นำทีมแนวรับโดย เบน ไวท์, วิลเลียม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลเญส และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ แล้วให้ มาร์ติน โอเดการ์ด ประสานงานกับ ฟาบิโอ วิเอร่า และ เดแคลน ไรซ์ เพื่อทำเกมกลางให้กับแนวรุกอย่าง เลอันโดร ทรอสซาร์, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ และ กาเบรียล เชซุส
“เรือใบสีฟ้า” ของเทรนเนอร์ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพลาดท่าให้กับ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-2 ในเกมลีก ทำให้ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส สบโอกาสได้ขึ้นไปรั้งหัวฝูง ซึ่งตอนนี้ทางทีมเยือนมีอยู่ทั้งหมด 18 แต้ม จาก 7 นัด ห่างจากหัวฝูงแค่ 2 แต้ม เท่ากับว่าถ้าต้องการทวงหัวตารางคืนก็มีแต่ต้องเฮเท่านั้น
ทว่าเกมนี้ เควิน เดอ บรอยน์ ที่เจ็บยาว และ โรดรี้ ซึ่งติดโทษแบน ก็ต้องดูเพื่อนเล่นไปก่อน ส่วนที่เหลือพร้อมเป็นตัวเลือกตามปกติ คาดว่าเกมนี้น่าจะมีการโรเตชั่นบางตำแหน่งจากเกมไล่ทุบ แอร์เบ ไลป์ซิก 3-1 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาก
โดยที่แนวรับจะมี ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, มานูเอล อคานจี และ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ประจำการ กลางสนามวาง มาเธอุส นูเนส ประสานงานกับ มาเตโอ โควาซิช แล้วให้ ฟิล โฟเด้น, เฌเรมี่ โดกู, ฮูเลียน อัลวาเรซ และ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ช่วยกันล่าตาค่ายเช่นเคย