อาร์เซน่อล เวลานี้ถือว่าเหนือกว่าทุกมิติแถมยังได้เปรียบจากการเป็นเจ้าบ้าน เตรียมจัดทัพแบบจัดเต็มเพื่อรับการมาเยือนของ เชลซี ที่เวียนแข้งเตะแบบไม่ซ้ำหน้า อีกทั้งยังไร้ โคล พาลเมอร์ “เดอะ แบก” ของทีมมาช่วยบู๊ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอังคารที่ 23 เมษายนนี้ เวลา 02.00 น. ณ สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
“ปืนใหญ่” ของเทรนเนอร์ มิเกล อาร์เตต้า ในที่สุดก็กลับขึ้นไปครองจ่าฝูงอีกครั้ง หลังจากบุกไปไล่ทุบ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เก็บเพิ่มเป็น 74 แต้มจาก 33 นัด เท่ากับอันดับ 2 “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แต่ผลต่างประตูได้เสียดีกว่า ตามด้วยอันดับ 3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีอยู่ 73 แต่ทีมเรือใบสีฟ้าแข่งน้อยกว่า 1 นัด
ขุมกำลังในเกมนี้ขาดเพียง เยอร์เรียน ทิมเบอร์ รายเดียวที่พักยาวจากอาการบาดเจ็บ ส่วนที่เหลือพร้อมลงสนามทั้งหมด โดยคาดว่ากุนซือเจ้าถิ่นน่าจะเตรียมปรับทัพเล็กน้อยจากเกมที่แล้ว
ในระบบ 4-3-3 แผงแบ็กโฟร์คาดว่าจะใช้ เบน ไวท์, วิลเลียม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลเญส และ ทาเคฮิโร โทมิยาสุ ส่วนแดนกลาง จอร์จินโญ่ ซึ่งเป็นตัวสำรองในเกมที่แล้ว น่าจะได้ลงดวลกับต้นสังกัดเก่า พร้อมด้วย เดแคลน ไรซ์, มาร์ติน โอเดการ์ด ขณะที่เกมรุกเป็นหน้าที่ของ บูกาโย ซาก้า, เลอันโดร ทรอสซาร์ และ ไค ฮาแวร์ตซ์
“สิงห์บูลส์” ภายใต้การทำทีมของ เมาริซิโอ โปเชตติโน่ ล่าสุดโชว์ฟอร์มโหดเปิดบ้านถล่ม “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน 6-0 รั้งอันดับ 9 ของตาราง มีอยู่ 47 แต้มจาก 31 นัด แต่ทว่าเกมล่าสุด ทีมสิงโตน้ำเงินครามพลาดท่าพ่าย แมนซิตี้ 0-1 กระเด็นตกรอบรองชนะเลิศ ศึกเอฟเอ คัพ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ส่วนความพร้อมในเกมนี้ก็เจอปัญหาใหญ่เมื่อ โคล พาลเมอร์ ตัวรุกคนสำคัญ มีอาการป่วย ส่อแววพลาดลงช่วยทีม นอกจากนี้ยังมีนักเตะอยู่ในลิสต์แข้งเดี้ยงอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น เวสลีย์ โฟฟานา, รีซ เจมส์, โรเมโอ ลาเวีย, ลีวาย โคลวิลล์, เลสลีย์ อูโกชุควู และคริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ขณะที่ เบน ชิลเวลล์ กับ มาโล กัสโต ต้องรอเช็กอาการอีกครั้ง
ในระบบ 4-2-3-1 อักเซล ดิซาซี่, เทรโวห์ ชาโลบาห์, ติอาโก้ ซิลวา และ มาร์ค กูกูเรยา โดยมี เอ็นโซ เฟร์นานเดซ กับ มอสเซส ไกเซโด้ เป็นคู่มิดฟิลด์ ส่วนแนวรุกใช้ โนนิ มาดูเอเก้, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, ราฮีม สเตอร์ลิง และ นิโคลัส แจ็คสัน