ลิเวอร์พูล กลับขึ้นรั้งจ่าฝูงหลังเสียตำแหน่งให้ แมนฯ ซิตี้ ไม่ทันข้ามคืน ในนัดเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เชลซี ก่อนถล่ม 2-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา
เปิดบ้านได้เพียงแค่ 6 นาที ซาดิโอ มาเน่ รีบเร่งเครื่องเข้าสุดเส้นหลังเพื่อเปิดบอลให้กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เอี้ยวตัวยิงทักทีมเยือน แต่ฟอร์มนายทวารยังดีไม่มีเสียประตูแต่อย่างใด
ทางฝั่ง เชลซี ก็ไม่น้อยหน้าส่ง วิลเลี่ยน เลี้ยงขึ้นมาไหลให้กับ เอแด็น อาซาร์ ขณะที่เจ้าบ้านส่ง โฌแอล มาติป เข้าประกบ จึงทำได้เพียงแค่เรียดมุมเข้ามาติดเซฟของ อลีสง เบ็คเกอร์ ที่ยืนรออยู่แล้ว
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงทีมเยือนเข้ารุกไล่อีกครั้ง โดย ดาวิด ลุยซ์ จัดการวางบอลยาวไปหา วิลเลี่ยน ก่อนจะตัดหน้าเข้าเขตโทษแล้วกดเน้น ๆ จนลูกหลุดออกหลัง
ช่วง 7 นาทีสุดท้ายในครึ่งแรก บังโม พลิกบอลปาดเข้าไปให้ มาเน่ โฉบยิงแต่ดันหลุดเสาแรกเสียก่อน
นาทีที่ 40 อันโตนิโอ รือดิเกอร์ เจ็บจนเล่นต่อไม่ได้ทำให้ เชลซี ต้องส่ง อันเดรียส คริสเตนเซ่น ลงแทน จบครึ่งแรกด้วยการยั้งเชิง เสมอกัน 0-0
กลับลงสนามอีกครั้งในช่วงครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ก็จัดการ เชลซี ได้สำเร็จจากการโหม่งของ มาเน่ ที่ได้ลูกตักมาจากแข้งของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ทำประตูนำ 1-0 เพียงแค่ 6 นาทีหลังเปิดเกม
สองนาทีต่อมาเจ้าถิ่นไม่รอช้ารีบปิดโอกาสหายใจของ สิงโตน้ำเงินคราม รอบนี้ เฟอร์กิล ฟานไดจ์ค วางบอลเข้าซ้ายให้ ซาลาห์ ได้คว้ามาอัดเต็มข้อ ส่งบอลเข้าเสียบสามเหลี่ยมสวย ๆ ทิ้งห่าง 2-0
ช่วงเวลาที่เหลือ เชลซี พยายามไล่ตีไข่ หงส์แดง ให้แตกแต่ก็ไม่สำเร็จ ทั้งคู่ต่างผลัดกันรุกรับอย่างดุเดือดเพราะเจ้าบ้านก็พยายามที่จะตอกฝาโลงอีกฝ่ายให้ได้เช่นกัน จบเกมด้วยชัยชนะของ ลิเวอร์พูล 2-0 บินขึ้นจ่าฝูงอีกครั้งด้วยคะแนน 85 แต้ม มากกว่า แมนฯ ซิตี้ 2 แต้ม และนัดเตะที่มากกว่า 1 นัด