นัดนี้ สเปอร์ส ยังคงกุมความได้เปรียบทั้งฐานะเจ้าบ้านและความสดของแข้งที่เก็บเอาไว้เพื่อปล่อยของอย่างเต็มที่ แต่ก็ประมาทไม่ได้เมื่อทีมเยือนอย่าง เอฟเวอร์ตัน รีดฟอร์มโกงตายได้สำเร็จหลังจากโดนตัด 10 แต้ม ฐานทำผิดกฎการเงิน และพร้อมซัดเต็มที่เพื่อเพิ่มโอกาสอยู่รอดในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 23 ธันวาคมนี้ เวลา 22.00 น. ณ สนาม ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม
“ไก่เดือยทอง” หลังจากก่อนหน้านี้โชว์ออกทะเลไปไกล ในที่สุดก็สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาคว้าชัย 2 นัดติดต่อกัน โดยเปิดบ้านหักปีก “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล 4-1 และบุกไปไล่ทุบ “เจ้าป่า” ฟอเรสต์ 2-0 ทำให้ขณะนี้มีอยู่ 33 แต้มจาก 17 นัด รั้งอันดับ 5 ของตาราง
สำหรับเกมนี้นายใหญ่อย่าง อังเก้ ปอสเตโคกลู ยังไม่สามารถใช้งาน เจมส์ แมดดิสัน, มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน, อิวาน เปริซิช, โรดริโก้ เบนตานคูร์, มานอร์ โซโลมอน, โจวานนี่ โล เซลโซ ที่ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ได้ รวมทั้ง อีฟส์ บิสซูม่า และ เดสทินี่ อูโดกี้ ซึ่งติดโทษแบน
อย่างไรก็ตามคาดว่าการจัดทัพแนวรับใช้ เปโดร ปอร์โร่, คริสเตียน โรเมโร่, เบน เดวิส และ เอแมร์ซอน รอแยล โดยมี ป๊าป ซาร์ กับ ปิแอร์ เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก ประสานงานคุมแดนกลาง ส่วนแนวรุกใช้ เบรนแนน จอห์นสัน, เดยัน คูลูเซฟสกี้, ซน ฮึงมิน และ ริชาร์ลิซอน
ทางด้าน “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ก็ไม่น้อยหน้า งัดฟอร์มสุดยอดออกมาได้อย่างเหลือเชื่อ หลังจากคว้าชัยในลีกมา 4 นัดรวด แถมยังเก็บคลีนชีทได้ทั้ง 4 นัด ทำให้อันดับขยับขึ้นมารั้งที่ 16 มีแต้มเหนือโซนตกชั้น 7 คะแนน แต่เมื่อกลางสัปดาห์ พ่ายจุดโทษ ฟูแล่ม 6-7 หลังเสมอกัน 1-1 จอดป้ายศึกคาราบาว คัพ ไว้ที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย
เกมนี้ ชอน ไดช์ นายใหญ่ทีมเยือนก็มีปัญหาลูกทีมบาดเจ็บเช่นกัน ซึ่งต้องรอเช็กอาการหลายคน ไม่ว่าจะเป็น แอชลีย์ ยัง, เซมัส โคลแมน, วิตาลี มายโคเลนโก้ และ อับดุลลาย ดูกูเร่ ส่วน เดเล่ อัลลี่ ยังต้องพักยาวต่อไป
ในระบบ 4-4-1-1 คาดว่าแนวรับเป็น นาธาน แพตเตอร์สัน, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, ไมเคิล คีน และ จาร์ราด แบรนธ์เวต มิดฟิลด์ประกอบด้วย อมาดู โอนาน่า, อิดริสซ่า เกย์, ดไวท์ แม็คนีล, แจ็ค แฮร์ริสัน โดยมี เจมส์ การ์เนอร์ รับบทหน้าต่ำ คอยปั้นเกมหนุนหัวหอกตัวเป้า โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน ที่จะหาจังหวะปิดสกอร์