ลิเวอร์พูล ตอนนี้ไม่ขออะไรมากนอกจากสามแต้มสำคัญในการรักษาตำแหน่งจ่าฝูงเอาไว้ โดยจะต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เบิร์นลี่ย์ ที่ถึงจะต่างชั้นแต่ก็ต้องการเพิ่มโอกาสมีชื่อติดในซีซั่นหน้าเช่นกัน นัดนี้ใครจะได้ชัยไปครอง ลุ้นกันได้ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 22.00 น. ณ สนาม แอนฟิลด์
“หงส์แดง” ภายใต้การทำทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ต้องรีดฟอร์มเก่งกลับมาให้ได้อีกครั้ง หลังจากนัดล่าสุดบุกไปพลาดท่าให้กับ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล 1-3 ทำให้โดน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่จี้มาห่างแค่ 2 แต้ม แถมแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด นั่นหมายความว่า พวกเขาจะไม่สามารถพลาดได้อีกเป็นอันขาด หากไม่อยากเสียเก้าอี้จ่าฝูงไปให้กับทีมของกุนซือสมองเพชรอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
อย่างไรก็ตามขุมกำลังของลิเวอร์พูลในเกมนี้จะไม่มี โฌแอล มาติป, สเตฟาน บายเซติช, โดมินิค โซบอซไล, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ คอสตาส ซิมิกาส ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนมาใช้งาน รวมทั้ง อิบราฮิมา โกนาเต้ ที่ติดโทษแบนหลังจากโดนไล่ออกในเกมล่าสุด
ยังดีที่ได้ วาตารุ เอ็นโด กลับมาช่วยทีมหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจกับทีมชาติญี่ปุ่น ในศึกเอเชียน คัพ แต่คาดว่าน่าจะออกสตาร์ทบนม้านั่งสำรองไปก่อน ส่วนแกนหลักที่เหลือยังคงเป็นชุดเดิม นำโดย เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, หลุยส์ ดิอาซ และ ดาร์วิน นูนเญซ ที่น่าจะถูกส่งลงเป็น 11 คนแรก หลังจากเป็นตัวสำรองในเกมเจอ อาร์เซน่อล
ทางฝั่ง เบิร์นลีย์ ก็เปิดบ้านไล่ตีเสมอ ฟูแล่ม แบบหืดจับก่อนจบด้วยสกอร์ 2-2 เท่ากับว่าตอนนี้ชนะเพียงนัดเดียวจากเกมลีก 9 นัดหลังสุด รั้งรองบ๊วยของตาราง มีอยู่แค่ 13 แต้มเท่านั้นจากการลงสนาม 23 นัดที่ผ่านมา
แถมเกมนี้นายใหญ่อย่าง แวงซองต์ กอมปานี ก็มีปัญหาลูกทีมบาดเจ็บเข้าไปอีก ไม่ว่าจะเป็น นาธาน เรดมอนด์, ลูก้า โคเลโอโช, ฮานส์ เดลครัวซ์, จอร์แดน เบเยอร์ และ ชาร์ลีย์ เทย์เลอร์ ส่วนผู้เล่นที่เหลือพร้อมลงสนามทั้งหมด โดยแผงแนวรับคาดว่าจะใช้ ลอรองซ์ อาสซีญง, ดาร่า โอเชีย, ทักซิม เอสตีฟ และ วิตินโญ่
ส่วนกลางสนามวาง จอช บราวฮิลล์, ซานเดอร์ แบร์เก, อารอน แรมซีย์, วิลซอง โอโดแบร์ คู่หน้าใช้ ลายล์ ฟอสเตอร์ ประสานงานกับ ดาวิด โฟฟาน่า กองหน้าดาวรุ่งที่เพิ่งยืมตัวมาจากเชลซี และซัดคนเดียว 2 ประตู จนพาทีมรอดพ่ายได้แบบหวุดหวิดจากนัดดวล “เจ้าสัวน้อย”