ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งได้แชมป์ คาราบาว คัพ ไปหมาด ๆ เกมนี้น่าจะมีการสับแข้งลงบู๊ เซาแธมป์ตัน ที่ฟอร์มตกมาสองนัดติด แถมยังมีโอกาสหมดอนาคตบนเวทีนี้สูงเข้าไปอีก ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 16 ทีมสุดท้าย คืนวันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 03.00 น. ณ สนาม แอนฟิลด์
เจ้าบ้าน “หงส์แดง” ฟอร์มกำลังสวยดุ หลังจากชนะ “สิงห์บูลส์” เชลซี ผงาดคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ ไปในนัดล่าสุดที่ผ่านมาทำให้ สถิติ 5 นัดหลังสุดทีมทำได้ ชนะ 4 แพ้ 1 ถือว่าทีมกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น
อย่างไรก็ตามในเกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็มีปัญหาในการจัดทัพจากผู้เล่นเจ็บระนาวตั้งแต่ผู้รักษาประตูยันกองหน้า ไม่ว่าจะเป็น อลีสซง เบ็คเกอร์, โฌแอล มาติป, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, เคอร์ติส โจนส์, ติอาโก้ อัลคันตาร่า, ไรอัน กราเฟนแบร์ค และ ดิโอโก้ โชต้า ส่วนในรายของ โดมินิค โซบอสไล, ดาร์วิน นูนเญซ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ต้องรอเช็กอาการอีกครั้ง
นั่นอาจทำให้กุนซือชาวเยอรมันตัดสินใจใช้ระบบ 4-3-3 ที่มีกองหลังอย่าง คอเนอร์ แบรดลีย์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ลงมาผนึกเกมในแนวรับ โดยมีกองกลางอย่าง โจ โกเมซ, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, วาตารุ เอ็นโด และ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ คอยปั้นเกมแดนกลาง โดยใช้กองหน้าอย่าง โคดี้ กัคโป และ หลุยส์ ดิอาซ คอยจบสกอร์คู่แข่ง
ขณะที่ “นักบุญแดนใต้” ยังคงฟอร์มยังไม่สวยเท่าไหร่ โดยนัดล่าสุดพลาดท่าพ่ายให้ มิลล์วอลล์ 1-2 ในบ้านตัวเอง ทำให้สถิติ 5 นัดหลังสุดทีมทำได้ ชนะ 2 แพ้ 3 ทีมยังคงต้องการความเด็ดขาดมากกว่านี้หากต้องการชนะคู่แข่ง
สำหรับความพร้อมของทีมในเกมนี้ รัสเซลล์ มาร์ติน ผู้จัดการทีมจะไม่มี ฆวน ลาริออส กับ รอสส์ สจ๊วร์ต ที่ยังต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน ส่วนผู้เล่นที่ติดโทษแบนนั้นไม่มีเข้ามาแต่อย่างใด
ในระบบ 4-3-3 ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, แจ็ค สตีเฟ่นส์, เทย์เลอร์ แฮร์วู้ด-เบลลิส และ ไรอัน แมนนิ่ง ลงมาเป็นปราการหลักแนวรับ ส่วนกองกลางใช้ โจ อาริโบ, วิลล์ สมอลล์โบน, สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง และ อดัม อาร์มสตรอง คอยสร้างเกมบุกแดนกลาง โดยมีกองหน้าอย่าง เช อดัมส์ และ ไรอัน เฟรเซอร์ คอยสังหารประตูคู่แข่ง