ถึงฟอร์มจะไม่ค่อยห่างกันมากนัก แต่ทางฝั่ง คริสตัล พาเลซ ก็ยังถือว่าภาษีดีกว่าไม่ว่าจะเป็นเกมรุกหรือรับ ต่างกับทีมเยือนอย่าง เลสเตอร์ ที่หลังค่อยข้างรั่ว ต้องเน้นรุกล่าตาข่ายอย่างเดียวถึงจะได้แต้มติดมือกลับบ้านไป เตรียมฟาดแข้งกันในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 14 กันยายนนี้ เวลา 21.00 น. ณ สนาม เซลเฮิร์ต พาร์ค
โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ นายใหญ่ “ปราสาทเรือนแก้ว” ลงเตะในลีกไปแล้ว 3 นัด ผลงานไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เสมอ 1 แพ้ 2 ทำให้ทีมมีอยู่เพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น หล่นมาอยู่อันดับที่ 16 ของตารางคะแนนแล้ว เกมล่าสุดก่อนโปรแกรมทีมชาติ คือการบุกไปเจ๊ากับ เชลซี มาได้ 1-1 ทำให้ทีมมีแต้มแรก
ความพร้อมของทีมในเกมนี้จะไม่มี ชาดี้ ริอัด และ ร็อบ โฮลดิ้ง ที่ยังมีอาการบาดเจ็บ ส่วนในรายของ มาเธอุส โอลิเวร่า และ อดัม วาร์ตัน ต้องดูว่าจะฟิตทันเกมนี้หรือไม่ แต่โอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงมีค่อนข้างน้อย ส่วนตัวหลักคนอื่นๆ ไม่มีปัญหาเพิ่มเติม
คาดว่าน่าจะส่ง ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า เป็นกองหนาตัวเป้า และมี ไดจิ คามาดะ กับ เอเบเรชี่ เอเซ่ เป็นตัวทำเกมรุก ส่วนแผงมิดฟิลด์จะมี วิลล์ ฮิวจ์ส และ ชีค ดูกูเร่ เป็นห้องเครื่อง ขณะที่แผงหลัง จะนำมาโดย มาร์ค เกฮี และ คริส ริชาร์ดส์
ทางฝั่ง “จิ้งจอกสยาม” ของเทรนเนอร์ สตีฟ คูเปอร์ สถานการณ์ไม่ต่างจากเจ้าบ้านมากนัก ลงสนามในลีกไปแล้ว 3 นัด เสมอ 1 แพ้ 2 เก็บได้เพียงแต้มเดียว อยู่อันดับที่ 15 ของตารางคะแนน เกมล่าสุดก่อนเบรคให้ทีมชาติ ผลงานย่ำแย่ พ่ายคาบ้านตัวเองให้กับ แอสตัน วิลล่า 1-2
สภาพความพร้อมในการบุกไปเยือนนัดนี้ จะขาด ยาคุบ สโตลาร์ซิค, แพทสัน ดาก้า ที่ยังมีอาการบาดเจ็บ รวมทั้ง อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ และ บ็อบบี้ เด คอร์โดวา-รีด สองดาวเตะตัวใหม่ ที่เจออาการเดี้ยงเล่นงาน ส่วนแกนหลักคนอื่นๆ ไม่มีปัญหาอะไร
เกมนี้น่าจะจัดทัพด้วยการส่ง เจมี่ วาร์ดี้ ดาวยิงตัวเก๋า เป็นกองหน้าตัวเป้า และมี จอร์แดน อายิว กับ อับดุล ฟาตาวู ขบาบข้าง ส่วนแผงมิดฟิลด์ จะให้ โอลิเวอร์ สคิปป์, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ รวมทั้ง แฮร์รี่ วิงค์ส เป็นตัวขับเคลื่อนเกม ขณะที่แนวรับ นำมาโดย เว้าท์ ฟาส และ คาเลบ โอโคลี