คริสตัล พาเลซ แค่เฮเกมนี้ก็จะขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 6 บนตารางเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีทันที พร้อมส่ง วิลฟรีด ซาฮา ลงมาช่วยทีมล่าตาข่าย ขณะที่เจ้าบ้านอย่าง ฟอเรสต์ ต้องสู้สุดชีวิตเพื่อเพิ่มโอกาสรอด ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายนนี้ เวลา 22.00 น.
สตีฟ คูเปอร์ กุนซือ “เจ้าป่า” แม้ว่าจะพาทีมแบ่งแต้มกับ “ผึ้งพิฆาต” เบรนฟอร์ด 2-2 ในเกมลีก แล้วตามไปหักขา “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ 2-0 ในลีกคัพ เก็บชัยแรกในรอบ 3 เกมมาได้ แต่นั่นยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ทีมของเขาสลัดจากตำแหน่งบ๊วยในเกมลีกได้อยู่ดี
ความพร้อมเกมนี้ต้องอดใช้งาน โอเรล ม็องกาล่า ที่โดนตะเพิดออกจากสนามในนัดล่าสุด แต่ก็ไม่ส่งผลต่อการจัดทัพมากนัก รวมถึงบรรดาแข้งเดี้ยงอย่าง ฌูเลียง เบียงโกเน่, แฮร์รี่ ทอฟโฟโล่, มุสซ่า เนียกาเต้ และ โอมาร์ ริชาร์ดส์ ส่วนในรายของ สกอตต์ แม็คเคนน่า กับ เชกู กูยาเต้ ยังคงต้องลุ้นฟิตจนถึงนาทีสุดท้าย
คาดว่าเกมนี้นายใหญ่เจ้าถิ่นจะมีการปรับทัพโดยกลับมาใช้บริการแข้งหลักขาประจำไม่ว่าจะเป็น ดีน เฮนเดอร์สัน, สตีฟ คุ๊ก, สกอตต์ และ เรโม ฟรอยเลอร์ รวมถึง เรนาน โลดี้ และ เจสซี่ ลินการ์ด เช่นเคย
ปาทริค วิเอร่า นายใหญ่ “ปราสาทเรือนแก้ว” เพิ่งจะพาทีมเฉือน “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 ในเกมลีก ส่วนลีกคัพพ่ายจุดโทษให้กับ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ไปเมื่อช่วงมิดวีกที่ผ่านมา
สภาพทีมตอนนี้ต้องดูก่อนว่า อ็ออดซอนน์ เอดูอร์ ที่เจ็บจนต้องนั่งดูเพื่อนเล่นมา 2 เกมแล้วจะสามารถกลับมาช่วยทีมได้หรือไม่ เพราะในรายของ โอมาร์ รชาร์ดส์, เนธาน เฟอร์กูสัน, แจ็ค บัตแลนด์ และเจมส์ แม็คอาร์เธอร์ ต่างก็ยังเดี้ยงอยู่
ก็แน่นอนว่าเกมนี้ต้องมีการปรับทัพโดยดึงเอาแข้งหลักที่ได้พักไปแล้วอย่าง บิเซนเต้ ไกวต้า, โยอาคิม อันเดอร์เซ่น, เอเบเรชี่ เอเซ่ และ วิลฟรีด ซาฮา มาช่วยกันล่าสกอร์ตามปกติ