บาเยิร์น มิวนิค แม้จะมี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็นทีเด็ดของทีมที่เพิ่งจะทำแฮตทริกไปหมาด ๆ แต่งานนี้อาจไม่ง่ายอย่างที่คิดเมื่อเจ้าบ้าน ฮอฟเฟ่นไฮม์ ก็คึกนานถึง 4 นัดติดจนพิชิตท็อปโฟร์ได้สำเร็จ ในศึกฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน คืนวันเสาร์ที่ 12 มีนาคมนี้ เวลา 21.30 น.
เซบาสเตียน เฮอเนส ผู้จัดการทีม ฮอฟเฟ่นไฮม์ ก็กู้ศรัทธาลูกทีมมาได้ตั้งแต่ไล่ซัด บีเลเฟลด์ 2-0 ต่อด้วย โวล์ฟสบวร์ก 2-1 แล้วไปทุบ สตุ๊ตการ์ท 2-1 ก่อนจะปิดท้าย โคโลญจน์ 1-0 จนสามารถรั้งกลุ่มหัวตารางพร้อมลุ้นตั๋วบอลยุโรปเรียบร้อยแล้ว
สภาพทีมตอนนี้ยังคงอดใช้ เบนยามิน ฮึบเนอร์, เซบาสเตียน รูดี้, คริส ริชาร์ดส์, โรเบิร์ต สคอฟ และ อร์มิน บิคัคซิช ที่ยังไม่หลุดจากบัญชีแข้งเดี้ยง
นั่นทำให้นายใหญ่เจ้าบ้านอาจต้องถอด เควิน อัคโพกูมา ออกจากปราการหลังแล้วเสียบ เควิน โฟ้กท์ เข้าไปคุมเกมรับร่วมกับ ชเตฟาน พอสช์ และ โฟลเรียน กริลลิทส์ช แนวรุกยังคงวางใจ คริสโตฟ เบาม์การ์ทเนอร์ ปั้นเกมให้ อังเดรย์ คารามาริช ที่ยืนคู่หน้ากับ จอร์จินโย่ รุทเทอร์ หรือ อิห์ลาส เบบู
ทางฝั่ง “เสือใต้” ของ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ล่าสุดถล่ม ซัลซ์บวร์ก 7-1 เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศถ้วยบิ๊กเอียร์ไปเรียบร้อยแล้ว ทว่าความพร้อมในเกมนี้ยังไร้แข้งหลักอย่าง โกร็องแต็ง โตลิสโซ่, เลออน โกเรทซ์ค่า และ อัลฟอนโซ่ เดวิส ที่ต่างก็ยังเจ็บอยู่ แต่ก็ยังดีที่ได้ มานูเอล นอยเออร์ ฟิตทันช่วยทีม
ด้วยระบบ 3-2-4-1 ยังคงเน้นชุดเดิมทั้งหมด นำทีมโดย จามาล มูเซียล่า, โยชัยว คิมมิช, แซร์ช นาบรี้, ลีรอย ซาเน่, โธมัส มุลเลอร์, คิงส์เล่ย์ โกมัน และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่จะมาช่วยกันขุดสกอร์ในเกมนี้